ความเสี่ยงตลาดคริปโตที่คุณต้องรู้ก่อนลงทุนจริง
ตลาดคริปโตดึงดูดผู้คนหน้าใหม่เข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยโอกาสทำกำไรที่น่าตื่นเต้นและมีเหรียญให้เลือกหลากหลาย แต่เบื้องหลังของผลตอบแทนที่สูงคือความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม มือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกนี้ การทำความเข้าใจความเสี่ยงต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องเงินทุนและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นมาดูกันว่ามีความเสี่ยงด้านใดบ้าง

ความผันผวนของราคาในตลาดคริปโต
มูลค่าของคริปโตสามารถขึ้นหรือลงอย่างรุนแรงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น บิตคอยน์อาจปรับตัวขึ้นหลายพันดอลลาร์ในวันเดียว และก็สามารถร่วงแรงภายในวันถัดมาหรือแม้กระทั่งภายในแค่ไม่กี่วินาทีถัดมาเลยทีเดียว ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ข่าวสาร กระแสตลาด หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ หรือที่วงการเรียกกันว่า “วาฬ”

สิ่งที่มือใหม่ควรทำคือ ไม่ลงทุนด้วยเงินที่ไม่สามารถเสียได้ ทุกครั้งต้องคิดเสมอว่าเงินนั้นอาจเป็นศูนย์ได้ และควรวางแผนจัดการความเสี่ยงด้วยการตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) หรือการแบ่งเงินลงทุนอย่างเหมาะสม

ความเสี่ยงจากแพลตฟอร์มตลาดคริปโต
ถึงแม้ว่ากระดานเทรดคริปโต (Exchange) จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนซื้อขายได้ง่าย แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องการถูกแฮ็กหรือปิดกิจการแบบไม่ทันตั้งตัว หลายกรณีในอดีต เช่น การล่มสลายของ Mt. Gox และ FTX ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินมหาศาลได้เช่นกัน

มือใหม่จึงควรเลือกกระดานเทรดที่ได้รับการกำกับดูแลหรือมีชื่อเสียงน่าเชื่อถือ และไม่ควรฝากเงินไว้ในกระดานเทรดทั้งหมด ควรโอนเหรียญไปเก็บในกระเป๋าเงินดิจิทัล (Crypto Wallet) ของตัวเองด้วย

การหลอกลวงและสแกม
ตลาดคริปโตเต็มไปด้วยโครงการปลอม แผนการแชร์ลูกโซ่ และการโกงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การหลอกให้โอนเหรียญ การเปิดโปรเจกต์เหรียญปลอมเพื่อระดมทุน หรือการหลอกลงทุนใน Yield Farming ที่ให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติ

นักลงทุนมือใหม่ควรตรวจสอบข้อมูลโครงการอย่างละเอียด ศึกษาทีมพัฒนา และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่ดูดีเกินจริง “เพราะถ้ามันดีเกินจริง มันอาจไม่จริงก็ได้”

ความเสี่ยงจากสัญญาอัจฉริยะ
สัญญาอัจฉริยะ หรือ สมาร์ตคอนแทรกต์เป็นหัวใจสำคัญของแพลตฟอร์ม DeFi และ NFT แต่หากโค้ดของสมาร์ตคอนแทรกต์มีช่องโหว่ อาจเปิดโอกาสให้แฮ็กเกอร์โจมตีและขโมยเงินทุนได้ ตัวอย่างเช่น การแฮ็กโปรโตคอล DeFi หลายครั้งที่ผ่านมา ทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินจำนวนมาก

ดังนั้น มือใหม่ควรเลือกใช้งานแพลตฟอร์มที่ผ่านการตรวจสอบ (Audit) จากบริษัทความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ และไม่ควรนำเงินทั้งหมดไปใส่ในแพลตฟอร์มเดียว

ความเสี่ยงจากกฎระเบียบและนโยบาย
ตลาดคริปโตยังอยู่ในช่วงการพัฒนาและถูกจับตามอง จากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก การออกกฎหมายหรือข้อบังคับใหม่อาจกระทบต่อราคาหรือการดำเนินงานของโปรเจกต์ต่าง ๆ เช่น การที่สหรัฐออกกฎหมาย Genius Act เพื่อกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ หรือการปราบปรามกระดานเทรดที่ไม่ได้รับใบอนุญาต

ซึ่งมือใหม่ควรติดตามข่าวสารด้านกฎระเบียบ และเลือกลงทุนในโปรเจกต์ที่ปฏิบัติตามกฎหมายในประเทศที่ตนอยู่

ความเสี่ยงจากการเก็บรักษา
การเก็บรักษาเหรียญคริปโตต้องใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) ซึ่งมีทั้งแบบ Hot Wallet (เชื่อมต่อออนไลน์) และ Cold Wallet (เก็บออฟไลน์) หากทำ Private Key หรือ Seed Phrase หาย จะไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ได้อีกเลย

สิ่งที่มือใหม่ควรทำ คือจัดเก็บ Seed Phrase ในที่ปลอดภัย ไม่ถ่ายภาพเก็บไว้บนคลาวด์หรือมือถือ และควรใช้กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์ (Hardware Wallet) สำหรับการถือครองระยะยาว

เมื่อพูดถึงแต่ความเสี่ยงในตลาดคริปโตแล้วเหรียญใดที่น่าลงทุนละ?
เชื่อว่าคอนเทนท์นี้อาจทำให้นักลงทุนคงต้องถามแอดมินกันไม่น้อยอีก มีแต่เขียนอธิบายด้านความเสี่ยงสำหรับการลงทุนระยะยาวสำหรับแอดมินนั้นคงหนีไม่พ้น Bitcoin และสำหรับการใช้งานและมีโอกาศเติบโตได้สูงสุดช่วงเวลานี้คงต้องแนะนำให้เป็นเหรียญ AVC (Animalverse Club) ที่ค้อนข้างมาแรงพร้อมแพลตฟอร์มการใช้งานในขณะนี้ซื้อเหรียญได้ที่ https://animalverse.social/checkouts/avc-point/

สรุปความเสียงการลงทุนในตลาดคริปโต
โดยสรุป ตลาดคริปโตเปรียบเสมือน “ดาบสองคม” ที่มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง การเข้าใจความเสี่ยงเป็นเกราะป้องกันชั้นแรกของนักลงทุนมือใหม่ ควรเริ่มจากการศึกษา หาความรู้ และลงทุนด้วยสติ เพราะการป้องกันความเสียหายสำคัญกว่าการมองหากำไรเพียงอย่างเดียว โลกคริปโตเปิดโอกาสให้ทุกคน แต่คนที่อยู่รอดคือคนที่รู้จักป้องกันความเสี่ยงก่อนเสมอ

สุดท้ายนี้ใดๆก็ตามการลงทุนให้คริปโตเคอเรนซี่นั้นถึงแม้จะได้รับผลกำไรสูงมากแต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงมากอยู่เช่นกัน ผู้ลงทุกควรศึกษาให้ละเอียดถีถ้วนก่อนการลงทุนทุกครั้ง