Animalverse.co News

Part 2
.
ไม่เพียงแค่การออกกฎหมายเพื่อบังคับใช้ แต่องค์การสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (NEA) ยังมีอำนาจในการเข้าไปสืบหาหลักฐาน และตรวจสอบพื้นที่ได้เองหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดแม้ว่าจะอยู่ในประเทศอื่น ก็สามารถกระทำได้โดยไม่ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นๆ รวมทั้งผู้ที่กระทำความผิดก็จะต้องมาขึ้นศาลในสิงคโปร์ซึ่งมีสิทธิตัดสินได้เลยตามกฎหมาย
.
แม้สิงคโปร์จะมีสภาพเป็นเกาะไม่มีพรมแดนทางบกติดกับประเทศใดๆ แต่ก็ถูกกรายล้อมด้วยเกาะน้อยใหญ่ของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่มีเกาะขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่ทำการเกษตรอย่างเกาสุมาตราและเกาบอร์เนียว ซึ่งเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมผลิตเยื่อกระดาษอีกด้วย
.
ที่สำคัญบริษัทสิงคโปร์เองก็เป็นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าว ฉะนั้นเมื่อเอกชนสิงคโปร์มีส่วนร่วมในการก่อมลพิษจากเกาะแดนไกล แล้วสายลมก็พัดให้ควันพิษลอยมากระทบผู้คนในประเทศ บริษัทเหล่านี้จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อการกระทำอันแสนจะมักง่ายนี้
.
รัฐบาลสิงคโปร์ใช้มาตรการทุกอย่างกดดันและบังคับบริษัทเหล่านี้ให้ยกเลิกการตัดไม้ และเผาพื้นที่ทำการเกษตร โดยใช้เครื่องมือสำคัญคือการออกกฎหมายหมอกควันข้ามพรมแดน เพื่อเป็นกลไกทางกฎหมายสำหรับควบคุมการดำเนินธุรกิจสวนปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซียของบริษัทที่มีที่ตั้งในสิงคโปร์ ไม่ให้เผาป่าเพื่อบุกเบิกพื้นที่การเกษตร อันเป็นการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดนที่ต้นเหตุ
.
ไม่เพียงแค่การออกกฎหมายเพื่อเอาผิดบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีส่วนในการสร้างหมอกควันให้ต้องมารับโทษแล้ว กฎหมายนี้ยังครอบคลุมไปถึงคู่ค้าของบริษัทที่หากพิสูจน์ได้ว่ารับซื้อปาล์มน้ำมันหรือมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมจากบริษัทที่มีการเผาป่า ประชาชนชาวสิงคโปร์ทั่วไปก็สามารถมีสิทธิ์ฟ้องบริษัทดังกล่าวได้อีกด้วย
.
ไม่เพียงแค่มาตรการทางกฎหมาย แต่ยังมีมาตรการทางสังคมอื่นๆ เข้ามากดดัน เช่น การคว่ำบาตรสินค้าที่ทำลายสิ่งแวดล้อมไม่ให้มีการนำเข้าหรือจำหน่ายในสิงคโปร์
.
หรือถ้าหากมีการจัดจำหน่ายอยู่ก็จะมีการสั่งให้นำสินค้าออกจากชั้นลงอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่วัน
.
มาตรการนี้ทำให้สิงคโปร์ลดผลกระทบจากหมอกควันพิษที่เกิดจากประเทศเพื่อนบ้านลงได้ แม้อาจไม่ทั้งหมดแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในระดับประเทศในอินโดนีเซียคือ รัฐบาลในประเทศต่างๆ มีความระมัดระวังและให้ความสำคัญกับเรื่องมลภาวะมากขึ้น อย่างเช่น รัฐบาลอินโดนีเซียที่ถึงกับออกนโยบายที่จริงจังเพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาในระดับนโยบาย รวมทั้งมีการลงทุนกับระบบตรวจสอบไฟป่าและการเผาในที่โล่งของประชาชน รวมทั้งยังมีพื้นที่ทดลองที่มีการใช้อุปกรณ์ตรวจสอบและควบคุมสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ด้วย
.
ทั้งนี้กฎหมายมลพิษทางอากาศข้ามพรมแดนเพื่อกดดันประเทศเพื่อนบ้าน อาจเป็นสิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วใช้กดดันประเทศที่พัฒนาล้าหลังกว่า และต้องพึ่งพาการค้า การลงทุนจากประเทศดังกล่าวเช่นที่สิงคโปร์ที่มีอำนาจต่อรองกับประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างสูงเพราะเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับต้นๆ ที่เข้าไปลงทุนในประเทศอื่นๆ ต่อให้จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่อำนาจการต่อกรกับชาติเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่ใหญ่กว่านั้น ชาติเพื่อนบ้านต่างต้องเกรงใจ

โอ้ววโหววว !! สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาลไทยในการจัดการปัญหาหมอกควันพิษ PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม สิ่งที่ควรเน้นคือการปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดการให้เป็นระบบและมีความเข้มงวดมากขึ้น
..
มองว่ากฎหมายเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการปัญหานะคะ การขาดกฎหมายที่สามารถเอาผิดบริษัทหรือบุคคลที่มีส่วนก่อให้เกิดมลพิษ เป็นช่องว่างสำคัญ ไทยควรพิจารณาออกกฎหมายลักษณะเดียวกับ THPA ของสิงคโปร์ เพื่อสร้างความรับผิดชอบทางกฎหมายและป้องปรามการกระทำที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม
..
ความรับผิดชอบของบริษัทใหญ่ บริษัทเกษตรกรรมรายใหญ่ของไทยที่ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ควรมีมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันการเผาพื้นที่เกษตรกรรม เช่น การลงทุนในเทคโนโลยีที่ยั่งยืน หรือการให้การสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในประเทศ รัฐบาลควรสนับสนุนเทคโนโลยีการเกษตรที่ไม่ใช้การเผา และให้แรงจูงใจทางเศรษฐกิจแก่เกษตรกร เช่น การสร้างตลาดสำหรับพืชผลที่ปลอดจากการเผา หรือการลดต้นทุนในกระบวนการเก็บเกี่ยว
..
แต่ใดใด ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาวแน่นอน รัฐบาลไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองและปรับนโยบายให้จริงจังและเป็นระบบมากขึ้น หากยังคงปล่อยให้บริษัทใหญ่หรือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมาก่อนสุขภาพประชาชน ประเทศจะต้องแบกรับผลกระทบในระยะยาวที่อาจแก้ไขได้ยากกว่าเดิม