ทรัมป์จะ "เซ็ต" ระบบทองใหม่ ซึ่งมันจะเขย่าโลกทั้งใบ!!!!! ทรัมป์จะ⚠️re-peg⚠️ทองคำทั้งหมดที่รัฐบาลอเมริกาถือครองในท้องพระคลัง --- มันหมายความว่ากระไร??? 1.) ทรัมป์จะไล่นับทองในคลัง มีเท่าไหร่ จริงไหมตามที่แสดง (เขียนไปแล้ว) 2.) นับเพื่อ "ตีมูลค่า" ใหม่ ตรงนี้ใหญ่หลวงมากๆ ๆ ๆ ๆ ๆ และต้องดูด้วยว่าตีใหม่แล้ว เพื่อเอาไป "ทำอะไร" ต่อ ง่ายๆ เลย --- ปัจจุบัน กระทรวงการคลังแห่งสหรัฐอเมริกาอภิมหาอำนาจ ประเมินราคาทองคำ โดยตีเป็น 42 ดอลลาร์/ออนซ์ ; บัญญัติไว้ตั้งแต่ปี 1973 แล้ว ละคุณก็พอจะรู้ใช่ไหม ว่าปี 2025 ราคาทองไปถึงไหนแล้ว นาทีที่พิมพ์อยู่นี้ (วันที่ 20 กุมภาพันธ์ เวลา 16.26 นาที : 2,953.5 ดอลลาร์/ออนซ์) ฉะนั้น สมเหตุสมผลไหม ที่ทรัมป์จะปรับเกณฑ์ peg ใหม่ หลังจากที่ไม่มีใครทำเลย ตั้ง 5 ทศวรรษแล้ว!!!!! 42 กับ 2,953.5 --- ตัวเลขมันห่างไกลกันเกินไป เกินกว่าจะละเลยได้ ทำไมที่ผ่านมาไม่มีใครปรับ ? สาเหตุ เกรงจะยาวไป ว่ากันถึงผลลัพธ์เถิด บัญชีคุณเปลี่ยนทันใดเลยนะ รวยขึ้นมหึมามหาศาลมโหฬาร จากเดิม "ทุนสำรองระหว่างประเทศ" ที่เก็บในรูปทองคำ มีมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ จะทวีคูณพูนสวัสดิ์ เป็น 7.7 แสนล้านดอลลาร์ พองขึ้น 70 เท่า!!!!!!! ยิ่งกว่าราชรถมาเกย แต่สวรรค์มิได้ส่งมา --- เป็นทรัมป์เองที่สร้างราชรถนี้ขึ้นมาเอง ตรงนี้ ผมไม่กล้าคิดเอง ต้องสอบถามอาจารย์ผมที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ อาจารย์บอกว่า ประการแรกเลย ทองจะแพงขึ้น เพราะอเมริกา "ให้ค่า" ทองมากขึ้น กลับกัน ดอลลาร์จะด้อยลง เพราะคิดตื้นๆ คือถ้าจะหาเอาทองจำนวนเดิม หมายถึงต้องมีดอลลาร์มากขึ้นในการแลกมา (ใช่ ต่อให้มันคือราคาตลาด ที่ตลาดรู้กันอยู่แล้ว ที่เทรดกันขณะนี้อยู่แล้ว ราคาไม่ใหม่สำหรับตลาด --- แต่มันคือมาตรฐานใหม่ของประเทศอเมริกา มาตรฐานที่ไม่เคยใช้มาก่อน ดังนั้น น้ำหนัก กำลัง อิทธิพล ฯลฯ หรือจะใช้คำอะไรก็ตาม มันเสริมส่งความแรงของราคานี้ขึ้น) "ค่า" ของเงินดอลลลาร์จะลดลง "ค่าเงิน" ของดอลลาร์ก็จะอ่อนลง ประเด็นถัดมา คือ ถ้าอเมริกา re-peg ซึ่งมันส่งผลต่อบัญชีงบดุลที่พอกพูนขึ้น (และส่งผลต่อ ค่าของเงิน และ ค่าเงิน ดอลลาร์) แล้วประเทศอื่นๆ ล่ะ (ทุกๆ ประเทศก็ย่อมต้องอ้างอิงจากอเมริกา มากหรือน้อย) ทีนี้ ประเทศอื่นๆ ก็ต้องเคลื่อนการ peg ด้วยใช่ไหมล่ะ ไม่งั้นการสะท้อนมูลค่าสินทรัพย์ของทุนสำรองระหว่างประเทศมันก็ไม่ shift ตามกันกับอเมริกา (ซึ่งแน่นอนว่าความสูงต่ำของมูลค่าทุนสำรองฯ ย่อมเชื่อมโยงถึงค่าเงินของสกุลท้องถิ่นนั้นโดยตรง) คำถาม คือ เราก็ไม่รู้ว่า แล้วแต่ละประเทศ peg กันยังไง (*ซึ่งเท่าที่คิดเองเออเอง มันไม่น่าจะต่ำเท่าอเมริกา ที่ 42 ดอลลาร์/ออนซ์ --- น่าจะค่อนข้างใกล้เคียงราคาตลาดกว่านั้น มีการปรับอย่างสม่ำเสมอ) เอาเข้าจริง แบงก์ชาติเราตีมูลค่าทองที่ราคาเท่าไหร่ ผมก็ไม่รู้นะครับ แล้วมันก็ยากตรงที่อเมริกาก็ไม่ได้ผูกค่าเงินกับการค้ำทองอยู่ดี --- ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นอีกเหตุใหญ่ใจความ ที่อเมริกาไม่จำต้องปรับ peg ให้มัน dynamic ตามราคาตลาดเท่าไหร่ (ยังไงก็ไม่ได้เอามาใช้มูลค่านี้เพื่อประโยชน์โพดผลอันใดนัก) พออเมริกาไม่ได้ผูกทองกับค่าเงิน แต่ประเทศอื่นๆ ที่แม้เชิงนโยบายไม่ได้ผูก แต่ในทางปฏิบัติ ทองก็ค้ำอยู่กลายๆ --- การจะไปปรับ peg ให้ได้มูลค่าตามอเมริกาก็ยิ่งไม่รู้จะกะยังไง ให้พอเหมาะพอสม อเมริกาทำงี้เพื่ออะไร หลังๆ หนี้มากเกินไป มากจนเกินรับไหว ทะลุเพดานแล้วทะลุเพดานอีก ไม่รู้จะยกเพดานลอยไปถึงไหนแล้ว งบดุลบัญชีที่จู่ๆ เป็นพะเนินขึ้นมา นั่นหมายถึงสถานะทางการคลังที่ดีขึ้น ถ้า ถ้า ถ้า ถ้าเอาออกมาใช้ ดังนั้น หมายความว่า ตีมูลค่าทองใหม่ แล้วก็ต้องเอาทองออกมา เพื่อจะได้เปลี่ยนเป็นเงินไปใช้ อเมริกาขายทองจากคลัง --- ถ้าตามทฤษฎีทั่วไป ปล่อย supply ออกมา ย่อมทำให้ราคาตกนะครับ แต่ผมกลับไม่มองงั้น เพราะเชื่อว่าโดย sentiment มันเพิ่มความสะพัดของทองอเมริกา และเป็นการติดปีกให้กับราคาทองจากท้องพระคลังอเมริกา คำว่า "ติดปีก" ปกติแล้วจะไม่เห็นภาพนะครับ แต่นี่เห็นเต็มตาเลย จาก 42 ดอลลาร์/ออนซ์ จะพุ่งปรี๊ดไปเป็นหลักพันดอลลาร์/ออนซ์ (ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าตั้งที่เท่าไหร่ ; ตอนนี้ ราคาตลาด ขณะที่พิมพ์ 2,953.5 ดอลลาร์/ออนซ์ --- แล้วจะตั้งใหม่หลักร้อย หลักพัน หรือกี่พันก็ยังไม่รู้ได้) หมายเหตุ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ถือครองทองคำ ไม่ใช่แบงก์ชาติ "เฟด" (*ประเทศไทย แบงก์ชาติ "ธปท." ถือ) แต่ "เฟด" จะมีบัญชีที่มูลค่าเทียบเท่ากับที่รัฐบาลถือ (ตามเกณฑ์ที่ peg) แล้วก็ออกเป็น "เครดิต" ที่รัฐบาล (กระทรวงการคลัง) แลกเอาเป็นดอลลาร์มาใช้ได้ โลกจะวุ่นวายสุดๆ นี่ขนาดแค่คิดคร่าวๆ เขียนคร่าวๆ ยังมีที่เกินกว่าจะจินตนาการแสนสลับซับซ้อนยุ่งยาก โปรดติดตาม
